ราคาบอล ราคาน้ำ ทำความเข้าใจก่อนแทงบอล
เวลาเราเข้าไปในเว็บแทงบอลหรือโต๊ะบอล สิ่งแรก ๆ ที่เจอกันประจำคือคำว่าราคาบอล และราคาน้ำ ซึ่งบางคนอาจจะงงว่ามันคืออะไร ต่างกันยังไง ทำไมเวลาเลือกแทงแล้วตัวเลขพวกนี้ถึงมีผลกับเงินที่ได้หรือเสียจริง ๆ ความจริงแล้วสองสิ่งนี้ถือว่าเป็นพื้นฐานที่นักเดิมพันทุกคนต้องรู้ เพราะมันมีผลต่อกำไร และยังช่วยให้เราคิดวางแผนการเล่นได้ฉลาดขึ้นกว่าเดิม
ดังนั้นหากผู้เล่นจะเริ่มแทงบอลออนไลน์ หรือไม่ว่าจะเป็นการแทงบอลในรูปแบบเก่าคือแทงตามโต๊ะบอลต่าง ๆ ก็ควรจะรู้เกี่ยวกับราคาบอล และราคาน้ำ ให้ดีเสียก่อน และจะทำให้การเดิมพันเป็นเรื่องที่ง่าย และไม่โดนโกงอย่างแน่นอน
ราคาบอลคืออะไร ? มาทำความเข้าใจกัน
เวลาที่เราเห็นตัวเลขอย่างเช่น 0.25, 0.5, 0.75, 1.0 บนเว็บแทงบอล ตัวเลขพวกนี้แหละที่เรียกว่า “ราคาบอล” หรือบางทีก็มีคนเรียกว่า อัตราต่อรอง จุดประสงค์คือเอาไว้ทำให้การเดิมพันมันแฟร์ขึ้น เพราะถ้าเตะกันทีมเก่งเจอทีมอ่อนแล้วไม่มีการต่อรอง มันคงไม่แฟร์จริงไหม
ตัวอย่างเช่น ถ้าแมนยูเจอทีมเล็ก ๆ อย่างนอริช แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ก็ต้องเชียร์แมนยูอยู่แล้ว ถ้าไม่มีการ “ต่อ” ใคร ๆ ก็แทงฝั่งแมนยูหมด โต๊ะบอลก็คงเจ๊งเละ ดังนั้นจึงมีราคาบอลออกมา เพื่อปรับสมดุลให้การแทงมันมีเงื่อนไขมากขึ้น
- ราคาเสมอ (0.0) แทงทีมไหนก็ลุ้นให้ชนะเท่านั้น ถ้าเสมอกันก็คืนเงิน
- ราคา ปป. (0-0.5) ทีมต่อชนะ 1 ลูกกินเต็ม แต่ถ้าเสมอ ทีมต่อเสียครึ่ง ทีมรองได้ครึ่ง
- ราคา ครึ่งลูก (0.5) ทีมต่อชนะ 1 ลูกขึ้นไปถึงจะได้เงิน ถ้าเสมอหรือแพ้คือเสียเต็ม
- ราคาครึ่งควบลูก (0.5-1) ถ้าชนะ 1 ลูก ทีมต่อได้แค่ครึ่ง ถ้าชนะ 2 ลูกขึ้นไปถึงจะได้เต็ม
- ราคาหนึ่งลูก (1.0) ถ้าชนะ 1 ลูกคือเสมอ ไม่ได้ไม่เสีย แต่ถ้าชนะ 2 ลูกขึ้นไปถึงจะได้เงิน
ยังมีอีกหลายรูปแบบ แต่หลัก ๆ ที่เจอบ่อยก็ประมาณนี้ ซึ่งถ้าเราทำความเข้าใจให้ดี เวลาเลือกแทงจะได้รู้ว่าต้องลุ้นยังไง
ราคาน้ำคืออะไร ? มาทำความเข้าใจกัน
มาถึงคำว่าราคาน้ำ กันบ้าง หลายคนเห็นแล้วงงเพราะมันจะอยู่หลังราคาบอลเสมอ เช่น 0.5-10, 1.0-0.92 อะไรแบบนี้ จริง ๆ ราคาน้ำก็คือ ค่าน้ำที่เว็บหรือโต๊ะบอลคิดไว้ เพื่อเป็นค่าดำเนินการ หรือพูดง่าย ๆ ว่าเป็นกำไรของโต๊ะ นั่นเอง
ราคาน้ำจะมีผลกับจำนวนเงินที่เราได้หรือเสีย เช่น บางทีเราแทงถูกก็อาจจะไม่ได้เต็ม 100% แต่จะถูกหักออกไปตามราคาน้ำ หรือถ้าเสียก็อาจจะไม่ได้เสียเต็มเช่นกัน ตัวอย่างเช่น
- แทงทีมต่อ ราคาน้ำ 0.90 = ถ้าแทง 100 บาทแล้วชนะ จะได้ 90 บาท ไม่ใช่ 100 เต็ม
- ถ้าแทงทีมรอง ราคาน้ำ -0.95 = แทง 100 ถ้าเสีย จะเสียแค่ 95 บาท ไม่ใช่ 100 เต็ม
พูดง่าย ๆ ราคาน้ำคือสิ่งที่กำหนดว่าเราจะได้เงินเท่าไหร่เมื่อชนะ และจะเสียเท่าไหร่เมื่อแพ้ มันเลยสำคัญพอ ๆ กับการเลือกทีมแทงเลย
ประเภทของราคาน้ำที่เจอบ่อย
- ราคาน้ำมีหลายแบบเหมือนกัน แล้วแต่เว็บหรือโต๊ะที่เราเล่นซึ่งหลัก ๆ มีดังนี้
- น้ำดำ คือเวลาชนะจะได้ไม่เต็ม เช่น แทง 100 ชนะได้ 90 แต่ถ้าเสียจะเสียเต็ม 100
- น้ำแดง คือถ้าแทงแล้วเสียจะเสียไม่เต็ม เช่น แทง 100 เสีย 90 แต่ถ้าชนะจะได้เต็ม 100
- MY (มาเลย์) คือเป็นแบบที่นิยมในไทย จะเจอน้ำแดงน้ำดำบ่อย
- HK (ฮ่องกง) คือตัวเลขจะเป็นกำไรที่ได้เพิ่ม เช่น ค่าน้ำ 0.80 แทง 100 ถ้าชนะจะได้ 180 (รวมทุน)
- EU (ยุโรป) คือค่าน้ำรวมทุน เช่น ค่าน้ำ 1.90 แทง 100 ถ้าชนะจะได้ 190

ทำไมต้องเข้าใจราคาบอล และราคาน้ำ
หลายคนที่พึ่งเริ่มเล่นอาจคิดว่าแค่เลือกทีมที่ชอบก็พอ แต่ความจริงคือ ราคาบอลกับราคาน้ำเป็นตัวกำหนดเลยว่าเราจะคุ้มหรือเปล่า
- บางครั้งทีมที่เรามั่นใจว่าชนะแน่ ๆ แต่ราคาบอลต่อแพงเกินไป เช่น ต่อ 2 ลูก เราก็ต้องลุ้นให้ชนะเกิน 2 ลูก ไม่งั้นก็ไม่ได้เงิน แบบนี้บางทีเสี่ยงเกินไป
- หรือบางทีราคาน้ำหักเยอะเกิน แทงถูกก็จริงแต่ได้กำไรนิดเดียว แบบนี้ก็อาจจะไม่คุ้มที่จะเล่น
ดังนั้นเวลาเลือกแทงบอล ไม่ใช่ดูแค่ทีมที่ชอบ แต่ต้องพิจารณาควบคู่ไปกับราคาบอลและราคาน้ำด้วย
เทคนิคแนะนำในการมองหาราคาน้ำ
- เช็คราคาเปิดตลาด คือถ้าเจอราคาน้ำทีมต่อถูกปรับลดลงเรื่อย ๆ แปลว่าคนแทงฝั่งนั้นเยอะ
- อย่ามองแค่ทีมเก่ง คือทีมใหญ่ใช่ว่าจะได้กำไรเสมอ เพราะราคาต่ออาจสูงเกินไป
- เลือกน้ำที่สมดุล คือบางครั้งน้ำแดงช่วยลดความเสี่ยงเวลาเสีย แต่ถ้าอยากได้เต็ม ๆ ก็ดูน้ำดำประกอบ
ราคาบอลและราคาน้ำคือของคู่กันที่ทุกคนต้องรู้ถ้าคิดจะเล่นแทงบอล ราคาบอลช่วยทำให้การเดิมพันแฟร์ ส่วนราคาน้ำคือค่าที่โต๊ะหรือเว็บหักเพื่อให้มีกำไร ทั้งสองสิ่งนี้ส่งผลโดยตรงกับเงินที่เราจะได้หรือเสีย
การเข้าใจพื้นฐานเรื่องพวกนี้ไม่ใช่แค่ทำให้เราเล่นได้ถูกต้อง แต่ยังช่วยให้เรามองเกมได้คุ้มค่ามากขึ้นอีกด้วย ใครที่อยากแทงบอลให้สนุกและไม่เสียเปรียบ ควรลองสังเกตตารางราคาทุกครั้งก่อนกดแทง เชื่อเถอะว่ามันช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสทำกำไรได้จริง ๆ
